ก็คือเรื่องของการจัดแสง
เรื่องแสงนี้เราก็ต้องมาดูกันก่อนว่า สิ่งที่ผู้ถ่ายต้องการตอนนั้นคืออะไร ต้องการอารมณ์ภาพเป็นแบบไหน ซึ่งลักษณะแสงที่ปรากฏก็จะมีหลักๆ 2 แบบด้วยกันคือ
1 การถ่ายภาพตามแสง >> ในการถ่ายภาพตามแสงนั้น ภาพที่ออกมา จะได้รายละเอียดที่ค่อนข้างครบถ้วน อย่างเช่นเราจะถ่าย วิวภูเขา หรือเกาะแก่งต่างๆ
การถ่ายภาพตามแสงนั้นจะช่วยให้เกิดความชัดเจนในรายละเอียดมากขึ้น
ซึ่งการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ส่วนใหญ่นั้นจะใช้วิธีการถ่ายภาพตามแสง เพื่อที่จะได้รายละเอียด สื่อไปถึงคนที่จะมาชมภาพ ว่าทิวทัศน์หรือสถานที่ต่างๆที่เราได้ไปเก็บภาพมา มีลักษณะอย่างไร รายละเอียดเป็นอย่างไร ซึ่งสามารถเห็นได้จากภาพได้ทันที
ส่วนในเรื่องการวัดแสงนั้นควรจะตั้งโหมดวัดแสงแบบเฉลี่ยทั้งภาพ และถ้าต้องการความสดของสีที่เกิดขึ้น ก็ควรจะใส่ฟิลเตอร์ CPL ไว้ด้วย ซึ่งจะมีประโยชน์มากเมื่อเราใช้ถ่ายภาพทะเล CPL จะตัดแสงสะท้อนออก ให้เหลือแต่แสงสีที่แท้จริงของท้องฟ้าและทะเล ทำให้ได้ทะเลสีมรกต
และท้องฟ้าสีฟ้าสวยงาม
2. การถ่ายภาพย้อนแสง >> การถ่ายภาพประเภทนี้จะไม่เน้นรายละเอียดของวัตถุที่เราจะเอามาเป็นแบบ คนทั่วไปจะหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพย้อนแสง เพราะมันไม่เห็นรายละเอียด เห็นแต่อะไรก็ไม่รู้มืดๆ แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราจัดองค์ประกอบได้ดีและเข้าใจอารมณ์ที่จะถ่ายทอดออกมาทางภาพ
ภาพที่ได้ก็จะออกมาอย่างสวยงามได้อารมณ์เป็นอย่างมาก
ภาพที่ได้ก็จะออกมาอย่างสวยงามได้อารมณ์เป็นอย่างมาก
จุดประสงค์ของการถ่ายภาพย้อนแสง จริงๆแล้วจะเน้นอารมณ์ของภาพมากกว่ารายละเอียด อย่างเช่นการถ่ายภาพชีวิตชาวเล ตอนพระอาทิตย์ตกดิน หรือภาพทิวเขาหลังอาทิตย์ลับขอบฟ้า ซึ่งแม้ภาพเหล่านี้จะไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก แต่ว่าจะได้อารมณ์บรรยากาศของสถานที่ ณ เวลานั้นๆ ได้อย่างดีทีเดียว
ทั้งการถ่ายภาพตามแสงและย้อนแสง ภาพที่ออกมาจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการจัดองค์ประกอบภาพ และการวัดแสงที่เหมาะสม เพื่อให้ภาพที่ออกมานั้น สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของผู้ถ่ายไปยังผู้รับได้อย่างสมบูรณ์และสวยงาม